5 เช็คลิสต์
พาธุรกิจ “รอด”
ในยุคโควิด

1. การสร้างตัวตน

5 วิธี “สร้างตัวตน”
ต้นทุนน้อย แต่ผลลัพธ์เกินคาด

        คุณธนากร เกษตรสุวรรณ (ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เล-ซี บอย ประเทศไทย จำกัด และในเครือ) กล่าวว่า “การทำธุรกิจในยุคปัจจุบันต้องการใช้การตลาดสื่อสารถึงลูกค้าโดยตรงด้วยการสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์ เพื่อให้ลูกค้าหาเราเจอ เพราะทุกวันนี้ทุกคนสามารถค้นหาสินค้าที่ต้องการได้ผ่านมือถือ”การสร้างตัวตนถือเป็นสิ่งที่ใช้ต้นทุนน้อยที่สุด แต่เป็นสิ่งที่จะทำให้คนรู้จักคุณมากขึ้น และหากมีคนรู้จักร้านค้าของคุณมากเพียงใดโอกาสในการขายก็มีเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น

         อะไรคือสิ่งที่เรามี: สิ่งที่เราต้องทำเป็นอย่างแรกคือ การเข้าใจตัวเองและหาจุดแข็งหรือสิ่งที่เราแตกต่างกับคู่แข่ง อะไรที่จะทำให้ผู้คนหรือลูกค้ามาสนใจได้ ซึ่งการหาจุดแข็งของตัวเองเจอเป็นสิ่งที่ดีและง่ายที่สุดในหารหาข้อได้เปรียบ เพราะเป็นสิ่งที่ธุรกิจเราจำเป็นต้องมีเพื่อจะไปแข่งขันกับธุรกิจอื่นๆ

         ใครคือกลุ่มเป้าหมาย: เซ็ท โกดิน (นักสร้างและพัฒนาเว็บไซต์) กล่าวว่า “ทุกๆคนไม่ใช่ลูกค้าของคุณ” นั่งแปลว่าคุณจะต้องกำหนดกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน เพราะหากเลือกกลุ่มเป้าหมายผิด ต่อให้เราพยายามจะสร้างคอนเทนต์ หรือสินค้า/บริการให้ดีแค่ไหน ก็จะไม่สามารถทำให้เราประสบความสำเร็จได้ เพราะไม่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย

        สร้างคอนเทนต์ให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย: “คอนเทนต์ คือ ราชา” บิล เกตส์ กล่าว คอนเทนต์เป็นสิ่งที่สร้างคุณค่าให้กับแบรนด์และธุรกิจ เมื่อมีการเผยแพร่คอนเทนต์ออกไป ถ้าคุณทำออกมาได้ดีตรงกับกลุ่มเป้าหมาย ก็จะทำให้มีคนมาสนใจในธุรกิจของคุณเพิ่มมากขึ้น และผู้คนเหล่านั้นอาจกลายเป็นลูกค้าของคุณในอนาคต

       เลือกช่องทางให้ถูก: “เลือกช่องทางถูก มีชัยไปกว่าครึ่ง” การเลือกช่องทางถือเป็นส่วนสำคัญในความสำเร็จของธุรกิจ เพราะถ้าคุณเลือกช่องทางการขายผิด ต่อให้คุณพยายามมากแค่ไหนการขายก็เป็นเรื่องที่ยาก แต่ถ้าเลือกถูก คุณอาจจะกลายเป็นธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว

       เก็บข้อมูลและนำมาพัฒนา: การเก็บข้อมูลมีหลากหลายรูปแบบ อาจเป็นการเก็บจากรีวิวของลูกค้าที่เคยใช้สินค้า/บริการของคุณ หรือการทำกิจกรรม เมื่อได้ข้อมูลแล้วให้นำสิ่งเหล่านั้นมาปรับใช้กับธุรกิจของคุณดีมากยิ่งขึ้น อะไรที่ไม่ดีก็ไม่ทำต่อ และแก้ไขให้ดีขึ้น ส่วนอะไรที่ดีก็รักษาคงไว้ เหมือนดังธุรกิจ Diamond Grains ที่เริ่มแรกก็ไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากทำผลิตภัณฑ์ไม่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้า และได้ทำการเก็บข้อมูลหาความต้องการจุงได้คิดผลิตภัณฑ์กราโนลาที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าได้ และประสบความสำเร็จใจที่สุด

อ้างอิง

https://www.prachachat.net/d-life/news-425131https://www.ensurecommunication.co.th/th/2018/05/02/content-seo-th/https://masondigital.com/everyone-is-not-your-customer/https://events.bangkokbanksme.com/en/lazboy-thai-building-online-identity

2. สร้าง Content ให้โดนใจ

สร้างคอนเทนท์ให้โดนใจ มัดใจลูกค้า

* แชร์ทิปส์สั้นๆ แบ่งปันเทคนิคการทำคอนเทนต์ง่ายๆ อาจจะทำเป็นโพสต์สั้นๆพร้อมกับรูปภาพ หรือวิดีโอไม่เกิน 15 วินาที เป็นเรื่องราวที่เป็นประโยชน์ให้กับคนที่เข้ามาดู เช่น เทคนิคการลดน้ำหนัก ทิปส์การแมทช์เสื้อผ้าไม่ซ้ำใคร เป็นต้น

* แชร์ How to ให้ความรู้สร้างสรรค์คอนเทนต์ที่ให้ความรู้ ที่สามารถนำมาปรับใช้ได้จริง ทำให้ลูกค้าได้ประโยชน์จากการเข้ามาชม ซึ่งอาจจะทำให้คนมาติดตาม สนใจในคอนเทนต์ต่างๆที่เราทำ

* แชร์ประสบการณ์การ แชร์ประสบการณ์บางคนอาจจะคิดว่าน่าเบื่อ แต่สำหรับบางคนมันอาจจะเป็นประโยชน์มาก เพราะความผิดพลาดที่เกิดขึ้น จะเป็นบทเรียนหรือเป็นแนวทางที่จะพยายามไม่ให้ผิดพลาด หรือทำให้เราเตรียมรับมือกับปัญหาเหล่านั้น ส่วนในมุมของประสบการณ์ดีๆก็อาจเป็นแรงผลักดันให้คนมีแรงบันดาลใจในการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ

* ทำเป็น list เช่น 5 สิ่ง…เป็นการทำคอนเทนต์โดยพาดหัวเรื่องในรูปแบบลิสต์ เช่น “6 สิ่งที่… “ “7 อย่างที่…” เป็นประโยคที่กระตุ้นให้ผู้คนสงสัย อยากรู้ สนใจที่จะเข้ามาดูเนื้อหาที่เราต้องการนำเสนอ และเมื่อเข้ามาดู ก็ยังได้ความรู้ที่อาจเป็นประโยชน์ในการทำสิ่งต่างๆอีกด้วย

* ทำให้เป็น secret การบอกคนว่าเป็น “เคล็ดลับ” “สูตรลับ” “เพิ่งจะรู้” ยิ่งทำให้คนอยากจะรู้ว่า เรื่องอะไร มีเนื้อหาอย่างไร ต้องลองอ่าน จะได้ไม่พลาดข่าวสารต่างๆ จึงทำให้การพาดหัวแบบนี้สามารถดึงดูดความสนใจได้จากผู้คนได้

3. เพิ่มช่องทางจำหน่าย

เพิ่มช่องทางจำหน่าย ให้ยอดขายพุ่ง !

* การขายผ่านหน้าร้าน สำหรับสินค้าที่มีหน้าร้านอยู่แล้ว หรือมีพื้นที่ขายหน้าร้านเป็นของตนเองคือได้เปรียบมาก เพราะการซื้อสินค้าบางชนิด การขายออนไลน์ก็ไม่สามารถตอบโจทย์ได้ เช่นการขายของสด คนบางกลุ่มอาจจะอยากเลือกของด้วยตัวเองเพื่อที่จะได้ของดีที่สุด หรือสำหรับบางคน การซื้อเสื้อผ้าก็อยากลองสวมใส่ อยากจับเนื้อผ้า ซึ่งการมีหน้าร้านก็จะทำให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการ และง่ายต่อการซื้อสำหรับบุคคล Generation X และ Baby Boomer

* ตัวแทนจำหน่าย การมีตัวแทนจำหน่ายจะทำให้ธุรกิจสามารถเพิ่มยอดขายได้มาก หากมีพนักงานที่ดีและขยัน อาจต้องมีแรงกระตุ้นเพื่อให้ตัวแทนมีความกระตือรือร้น และการมีตัวแทนยังเป็นการเพิ่มการรับรู้ ซึ่งในการขาย ถ้าคุณขายสินค้าราคาไม่แพงนัก อาจจะแบ่งเป็นตัวแทนที่สต๊อกสินค้า และไม่สต๊อกสินค้า สำหรับคนที่อยากขายสินค้าแต่ทุนน้อย ก็สามารถขายสินค้าได้ ซึ่งก็เหมือนมีคนมาช่วยแบ่งเบาการขายสินค้า และเพิ่มการโฆษณาสินค้าของคุณอีกด้วย

* การขายผ่านสื่อออนไลน์ การขายบนแฟลตฟอร์มต่างๆบนออนไลน์ก็มีให้เลือกจำนวนมาก ซึ่งแต่ละแฟลตฟอร์มก็มีกลุ่มลูกค้าที่แตกต่างกัน และมีเทคนิคการขายสินค้าที่แตกต่างกัน ดังนี้

– Facebook มีผู้ใช้งานจำนวนมากที่สุด และสามารถขายได้ทุกอย่างทั้งสินค้าและบริการต่างๆ เพราะมีหลายอย่างให้ใช้งานได้ เช่นการสร้างเพจเพื่อให้คนติดตาม การLive หรือการลงคอนเทนต์ต่างๆ

– Instagram จะเน้นกลุ่มลูกค้า Generation Y และ Z เพราะกลุ่มคนเหล่านี้มีการเล่น Instagram จำนวนมาก สินค้าที่เหมาะคือสินค้าแฟชั่น ร้านค้าควรจะเน้นการทำรูปให้สวย และทำร้านค้าให้เป็นเอกลักษณ์ของทางร้านเอง จะช่วยดึงดูดกลุ่มลูกค้าได้มาก

– Line Myshop เป็นแฟลตฟอร์มที่สะดวกต่อทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย เพราะเป็นแอปพลิเคชันที่ผู้ซื้อสามารถสั่งซื้อเองได้ หรือถ้าไม่อยากวุ่นวาย ผู้ขายก็สามารถออกใบออเดอร์ให้ได้ทันที

– Marketplace (Shopee/Lazada) เป็นแฟลตฟอร์มที่มีเพื่อการขายสินค้าโดยเฉพาะ ซึ่งในแต่ละแอปพลิเคชันก็มีการใช้งานที่ต่างกัน หรืออาจมีพาร์ทเนอร์ที่ต่างกัน ซึ่งต้องศึกษาเพิ่มเติมเพื่อให้เหมาะสมกับความสะดวกของผู้ขายเอง

– Website การสร้างเว็บไซต์ จะทำให้ร้านค้าดูมีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น ซึ่งลูกค้าก็จะมั่นใจและไว้วางใจในตราสินค้าของเรา และยังเป็นการเพิ่มโอกาสในการขายอีกด้วย

อ้างอิง https://www.websiterating.com/th/research/instagram-statistics/#summary

4. ใช้อินฟลูเอนเซอร์ช่วยโปรโมต

ใช้อินฟลูเอนเซอร์ช่วยโปรโมตดียังไง?

         Influencer Marketing คือ การตลาดออนไลน์ ที่ใช้บุคคลที่มีชื่อเสียงในการโฆษณาสินค้า โดยเริ่มแพร่หลายในปี 2014 กลุ่มอินฟลูเอนเซอร์ที่เริ่มใช้คือ celebrity หรือ Mass Publisher ที่เป็นดารา นักแสดง ในการรีวิวสินค้า และต่อมากลุ่ม Blogger และ Youtuber ก็พัฒนาคอนเทนต์ ทำให้เริ่มทรงอิทธิพล แบรนด์ต่างๆจึงเริ่มมาใช้กลุ่มเหล่านี้ด้วย จนถึงปัจจุบันก็เริ่มมี Micro Influencer และ Nano Influener มากขึ้น คือคนที่มีผู้ติดตามยังไม่มีนัก กลุ่มคนจะน้อยกว่า แต่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุดมากกว่า ซึ่งสามารถสร้างความน่าเชื่อถือและโน้มน้าวใจได้เป็นอย่างดี

ซึ่งการใช้อินฟลูเอนเซอร์มีข้อดีดังนี้

* เข้าถึงและโน้มน้าวลูกค้าได้ง่ายขึ้น ลูกค้าจะเชื่อมากกว่าว่ากลุ่มอินฟลูเอนเซอร์ใช้จริง แล้วจะอยากลองใช้มากกว่าการไปเห็นตามโฆษณาต่างๆ และจะเกิดการอยากซื้อตาม อยากลอง ยิ่งถ้าเป็นคนที่พวกเขารู้จักหรือกำลังติดตามก็จะยิ่งโน้มน้าวใจได้ดียิ่งขึ้น

* ภาพลักษณ์ของแบรนด์ดูดีขึ้น การเลือกใช้อินฟลูเอนเซอร์ต้องเลือกให้ตรงกับสินค้าและกลุ่มเป้าหมายของเรา การเลือกอินฟลูเอนเซอร์ให้เหมาะสมจะทำให้ภาพลักษณ์ดูดีขึ้น และอาจเปลี่ยนกลุ่มลูกค้าได้ เช่น สินค้ายาสีฟันสมุนไพร ใช้อินฟลูเอนเซอร์ที่เป็นวัยรุ่น ก็อาจจะทำให้ได้กลุ่มลูกค้าทั้งวัยรุ่นและผู้สูงอายุที่เป็นกลุ่มลูกค้าเดิมได้

       แต่การเลือกอินฟลูเอนเซอร์ก็ควรมีข้อระวัง คือต้องเลือกคนที่เหมาะกับสินค้า ควรดูกลุ่มผู้ติดตามด้วยว่าตรงกับกลุ่มเป้าหมายของทางแบรนด์หรือไม่ เพราะถ้ากลุ่มผู้ติดตามไม่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่แบรนด์ต้องการ ก็อาจทำให้แบรนด์ไม่ประสบความสำเร็จในการโปรโมตเพื่อโน้มน้าวใจ และอินฟลูอินเซอร์ที่เลือกไม่ควรมีเรื่องเสียหาย เพราะจะทำให้แบรนด์โดนผลกระทบไปด้วย

อ้างอิง: https://seo-web.aun-thai.co.th/blog/marketing-blog-influencer-strategy/

5. รู้จัก Drop-Ship หารายได้แบบไม่ต้องสต็อคสินค้า

Drop-ship คืออะไร

     Dropship คือ การขายรูปแบบใหม่ โดยการไปสมัครเพื่อรับสินค้ามาขายกับเว็บไซต์ที่มีความน่าเชื่อถือ แต่ไม่ต้องสต๊อกสินค้า ไม่ต้องเสียเวลาถ่ายรูป สามารถขายได้เลยสำหรับคนที่ต้นทุนน้อย เพราะเมื่อสมัครสิ่งที่จะได้รับคือรูปภาพสำหรับโพสต์ขาย รายละเอียดของสินค้า และสำหรับบางเว็บไซต์อาจมีข้อเสนอพิเศษแล้วแต่ผู้ขายจะเลือกใช้บริการ

ข้อดี

– มีสินค้าให้เลือกขาย และไม่ต้องลงทุนด้วยตัวเอง

– ไม่ต้องกังวลเรื่องพื้นที่สต๊อกสินค้า

– ง่าย สะดวก ประหยัดเวลาทำธุรกิจ

ข้อเสีย

– ถ้าเลือก Dropship ไม่ดีหรือไม่น่าเชื่อถืออาจโดนโกงได้

– เนื่องจากใครๆก็ทำได้ ทำให้มีคู่แข่งจำนวนมาก

– สินค้าบางตัวอาจได้กำไรน้อย เนื่องจากต้นทุนสูง

รวบรวมเว็บไซต์ Dropship 

– dhgate.com

– lightinthebox.com

– alibaba.com

– dropshippop.com

– hardwareking.co.th